Be Seen to be Safe – Part 3 ไฟท้าย

1032 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Be Seen to be Safe – Part 3 ไฟท้าย

คราวที่แล้วทาง Siam Motobike ได้กล่าวถึงเรื่อง Be Seen to be Safe ในเรื่องของไฟหน้าไปแล้ว คราวนี้เราจะกล่าวถึงเรื่องไฟท้ายกันบ้างนะครับ หลายๆคนอาจจะคิดถึงแต่เรื่องไฟหน้าโดยลืมไปว่าไฟท้ายก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กันเลยทีเดียว ไฟหลังมีส่วนสำคัญเท่าๆกับไฟหน้ากันเลยนะครับเพราะคนที่ขี่หรือขับตามเราจะสามารถมองเห็นและทำให้กะระยะได้ง่าย ไฟท้ายในที่นี้หมายถึงไฟเบรกและไฟเลี้ยวด้วยนะครับ
 
รถมอเตอร์ไซสามารถลดความเร็วได้หลายทางครับ ไม่ว่าจะด้วยการเบรก หรือการใช้ engine brake แถมด้วยลักษณะการทดเกียร์ของมอเตอร์ไซทำให้เวลาผ่อนคันเร่งความเร็วจะลดลงมากกว่ารถยนต์พอสมควร ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้รถยนต์หรือแม้กระทั่งมอเตอร์ไซที่ตามหลังมาอาจจะไม่ทันสังเกตุหรือกะระยะเราผิดได้ เคยบ้างมั้ยครับที่ขับรถตามหลังรถที่ไม่มีไฟท้ายแล้วอยู่ดีๆเค้าเบรกเพื่อเลี้ยว หรือว่าบางกรณีทางคนขี่มอเตอร์ไซอาจจะไม่ได้เบรกแต่ใช้วิธีการชลอผ่อนคันเร่งแล้วเราไม่ได้สังเกตุ ผมเชื่อว่าเกือบจะทุกคนต้องเคยเจอเหตุการณ์นี้อย่างน้อยก็หนึ่งครั้งในชีวิตครับ การที่เราทำติดตั้งไฟหรือทำให้ไฟกระพริบได้จะช่วยลดอุบัติเหตุเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีครับ
 
การทำให้ไฟเบรกเป็นที่สังเกตได้หลายวิธีครับ เดี๋ยวเราจะอธิบายวิธีการคร่าวๆนะครับ
1. สุขภาพไฟ...ไฟหลังเราต้องหมั่นตรวจครับเหมือนๆกับสุขภาพร่างกานคนเราเนี่ยแหละครับ หลายคนตรวจแต่ไฟหน้าเพราะมันอยู่ด้านเรา ขับไปทางมืดๆก็สังเกตได้แล้ว ไฟท้ายจึงเหมือนไม่มีคนสนใจ คนเราๆเลยไม่ค่อยได้ดูแลมันซักหน่อย ถ้าไฟท้ายพูดได้คงน้อยใจกันน่าดู เวลาก่อนออกทริปให้ตรวจดูไฟทั้งหมดว่าใช้งานได้หรือเปล่า ผมเองนอกจากจะใช้วิธีตรวจดูก่อนออกจากบ้าน เวลาถอยจอดก็จะสังเกตกำแพงว่าไฟหลัง/ไฟเบรกติดมั้ย เป็นต้นครับ ส่วนเรื่องไฟเลี้ยว...เคยสังเกตกันมั้ยครับบางทีเราเปิดไฟเลี้ยวแล้วมันกระพริบถี่ๆกว่าปกติ นั่นแหละครับเป็นสัญญาณบอกว่าได้เวลาเปลี่ยนหลอดไฟเลี้ยวได้แล้วนะ
 
2. การกำเบรก แทนที่เราจะกำเบรกปกติ เราก็กำปล่อยๆสลับกันไป มีการทำวิจัยที่ต่างประเทศพบว่าการที่ไฟกระพริบด้วยความถี่ 5 ครั้งต่อวินาทีจะสามารถทำให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายขึ้นครับ แต่การที่เราจะกำเบรกถี่ขนาดนั้นคงเป็นไปได้ยาก อย่างน้อยก็พยายามกำปล่อยๆเท่าที่ทำได้นะครับ วิธีการนี้ใช้เมื่อเราค่อยๆเบรกชลอเพื่อมาจอดนะครับ ถ้าเราขี่มาอย่างเร็วให้เรากำเบรกให้รถหยุดก่อนแล้วส่องกระจกมองหลังดูว่ามีรถตามมาหรือไม่แล้วค่อยกำเบรกเพื่อให้ไฟเบรกกระพริบครับ
ถ้ากรณีถ้าเราต้องการชลอด้วยการ Engine Braking ก่อนถึงแยกหรือเลี้ยวเข้าซอยก็ตามแต่ ให้เราแตะเบรกเบาๆเพื่อให้ไฟท้ายกระพริบจะได้เตือนสติคนที่ขับตามมาข้างหลังครับ ไม่ต้องถึงขนาดให้หัวทิ่มกันก็ได้นะครับ แค่เอาพอไฟติดก็พอ
 
3. ติดไฟท้ายแบบที่สามารถกระพริบได้ ตอนนี้มีหลายยี่ห้อหลายแบบ มีทั้งแบบราคาแพงหูฉี่และถูกๆก็สามารถหาซื้อกันได้ครับ บางรุ่นที่แพงๆ อาจจะมี Gyro เพื่อวัดอัตราการเบรกเพื่อปรับความถี่ในการกระพริบก็มีนะครับ อย่างที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ มีงานวิจัยที่อมเริกา พบว่าการที่มีไฟกระพริบทำให้คนที่ตามหลังมาเกิดการระวังมากขึ้น ซึ่งมันก็จริงครับเวลาที่ผมขี่ถนนมืดๆ ถ้าเห็นไฟกระพริบแล้วผมจะระวังตัวเพิ่มขึ้น ชลอและพร้อมเบรกก่อนเลยเป็นอันดับแรกเลยครับ
 
4. สุดท้ายก็อยากฝากเรื่องเล็กๆน้อยอีกเรื่องครับ เวลาเราเบรกหรือเลี้ยวเราได้เคยสังเกตกระจกมองข้างกันมั้ยครับ อุปกรณ์ชิ้นนี้อาจจะไม่มีมูลค่าเท่าไหร่ แต่สามารถช่วยชีวิตเราได้มากมายเลยนะครับ เวลาที่เราต้องการเบรกให้ฝึกมองกระจกหลังไว้ ดูว่ารถที่ตามหลังเรามาอยู่ห่างแค่ไหน จี้เรามาหรือเปล่า รถเล็กหรือรถใหญ่ มันสามารถทำให้เราประเมินสถานการ์ได้ง่ายขึ้น มอเตอร์ไซเราเบรกได้ดีกว่าเร็วกว่ารถยนต์เยอะมากนะครับ คนที่ขับมาข้างหลังอาจจะเบรกไม่ทันแล้วชนท้ายเราได้ง่ายๆครับ
 
เวลาเราไกล้จะถึงแยกี่มีไฟแดงก็ให้ประเมิณว่าเราต้องเบรกเยอะมั้ย จะจอดตรงไหนดี ถ้าเราสามารถจอดชิดๆทางได้ก็อาจจะช่วยลดโอกาสที่คนจะเสยท้ายได้ครับ การที่เราไปจอดกลางแยก ด้วยความร้อนและแสงแดดหรือด้วยความมืดทำให้มอเตอร์ไซซึ่งมีพื้นที่หน้าตัดเล็กๆอยู่แล้วยิ่งมองเห็นลำบากขึ้นอีกครับ
 
อยากฝากเรื่อง Safety เล็กๆน้อยๆเหล่านี้ให้เพื่อนชาวสองล้อขับขี่อย่างปลอดภันถ้วนหน้าครับ คอยพบกับสินค้าใหม่ของ Clearwater เร็วๆนี้ เป็นไฟเบรกด้านหลังที่สามารถต่อพวงและควบคุมผ่านชุดไฟหน้าได้โดยตรงครับ

Powered by MakeWebEasy.com